If you want to know if someone is telling the truth, keep an eye on the eyes.
Liars blink in different ways during and after a falsehood, researchers claim.
They blink less than normal during the lie, and then have a flurry up to eight times faster than usual afterwards.
'It is striking what different patterns in eye blinks emerged for liars and truth tellers,' said Dr Sharon Leal, co-author of the study at Portsmouth University.
'Such striking differences in behaviour between liars and truth tellers are rarely seen in deception research.'
The psychologists say that the discovery, reported in the Journal of Non-verbal Behaviour, means that blink rates could be used by professionals to catch liars.
In the study, a group of volunteers were told to go about their normal business for ten minutes but not to do anything that they might later have to lie about.
A second group were asked to steal an exam paper from an office, then to deny having taken it. Experimenters, unaware of which group each individual was attached to, then asked each to recall exactly what they had been doing.
While they were being asked questions, their blink rates, which had all been the same at the start, were monitored with electrodes placed above and below and at the sides of the eyes to monitor all movements.
Results show that when the questions were being asked and the answers given, the blink rate in the liars went down.
The truth tellers' rate went up, possibly because of test anxiety.
Afterwards, the blink rate of the liars increased rapidly in a sudden flurry of activity, while that of the truth tellers remained the same.
The researchers say that the increased mental effort involved in telling fibs could be the reason why liars do not blink during the act of lying.
Dr Leal said: 'Liars must need to make up their stories and must monitor their fabrication so that they are plausible and adhere to everything the observer knows or might find out.
'In addition, liars must remember their earlier statements, so that they appear consistent when re-telling their story, and know what they told to whom. Liars will be more inclined than truth tellers to monitor and control their demeanour so they will appear honest.
'The reasons why there is a flurry of blinks after the lie is not really clear. It may be that this flurry is a kind of safety valve, like a release of energy after the tension of lying.'
รายงานข่าวแจ้งว่า Photoshop Lightroom 2 จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพ ตั้งแต่ขั้นตอนของการถ่ายภาพไปจนถึงขั้นตอนการปรับแต่งขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ Lightroom 2 ยังเป็นแอพลิเคชันแรกของอะโดบีที่สนับสนุนการประมวลผล 64 บิต สำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอชที่ใช้ Mac OS X 10.5 และโพรเซสเซอร์ของอินเทล และระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Vista รุ่น 64 บิต จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยความจำสำหรับการรองรับภาพถ่ายขนาดใหญ่
นายทอม โฮการ์ตี้ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับ Lightroom และ Camera Raw ของอะโดบี กล่าวว่า ชุมชนนักถ่ายภาพทั่วโลกได้จัดหาข้อมูลเชิงลึกและข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ภายใต้โครงการทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ Lightroom 2 ซึ่งช่วยให้เราสามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยอะโดบีได้พิจารณาคำร้องขอของผู้ใช้ และปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถปรับแต่ง ปรับปรุง และนำเสนอภาพถ่ายที่สวยงามได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีรายงานว่าความเร็วในการพิมพ์ของ SELPHY ES3 และ ES30 อยู่ในระดับใด แคนนอนระบุเพียงว่าด้วยโปรเซสเซอร์ DIGIC II จะทำให้งานพิมพ์คุณภาพสูงสามารถทำได้เร็ว หมึกพิมพ์พิเศษสามารถปกป้องภาพจากอันตรายของฝุ่น สามารถพิมพ์ภาพได้โดยตรงจากเมมโมรี่การ์ด กล้องวีดีโอ หรือกล้องดิจิตอลทั่วไป รองรับการพิมพ์ไร้สายผ่าน IrDA IR (เฉพาะรุ่น SELPHY ES3) และ Bluetooth (เมื่อซื้ออุปกรณ์เสิรม BU-30 Bluetooth Unit) สามารถเลือกพิมพ์ภาพแบบพิเศษที่จะทำให้ภาพพิมพ์อยู่ได้ถึง 100 ปีด้วย
ที่มาพร้อมกับ SELPHY ES3 และ ES30 คือซอฟต์แวร์เพื่อการจัดการ เก็บบันทึก และพิมพ์ภาพผ่านเครื่องพีซี ซอฟต์แวร์นี้สามารถรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows 2000 SP4/XP SP1/SP2/Vista 64 บิต และ Mac OS X (Version10.4-10.5)
7 ความคิดเห็น:
How do you spot a lie?
If you want to know if someone is telling the truth, keep an eye on the eyes.
Liars blink in different ways during and after a falsehood, researchers claim.
They blink less than normal during the lie, and then have a flurry up to eight times faster than usual afterwards.
'It is striking what different patterns in eye blinks emerged for liars and truth tellers,' said Dr Sharon Leal, co-author of the study at Portsmouth University.
'Such striking differences in behaviour between liars and truth tellers are rarely seen in deception research.'
The psychologists say that the discovery, reported in the Journal of Non-verbal Behaviour, means that blink rates could be used by professionals to catch liars.
In the study, a group of volunteers were told to go about their normal business for ten minutes but not to do anything that they might later have to lie about.
A second group were asked to steal an exam paper from an office, then to deny having taken it.
Experimenters, unaware of which group each individual was attached to, then asked each to recall exactly what they had been doing.
While they were being asked questions, their blink rates, which had all been the same at the start, were monitored with electrodes placed above and below and at the sides of the eyes to monitor all movements.
Results show that when the questions were being asked and the answers given, the blink rate in the liars went down.
The truth tellers' rate went up, possibly because of test anxiety.
Afterwards, the blink rate of the liars increased rapidly in a sudden flurry of activity, while that of the truth tellers remained the same.
The researchers say that the increased mental effort involved in telling fibs could be the reason why liars do not blink during the act of lying.
Dr Leal said: 'Liars must need to make up their stories and must monitor their fabrication so that they are plausible and adhere to everything the observer knows or might find out.
'In addition, liars must remember their earlier statements, so that they appear consistent when re-telling their story, and know what they told to whom. Liars will be more inclined than truth tellers to monitor and control their demeanour so they will appear honest.
'The reasons why there is a flurry of blinks after the lie is not really clear. It may be that this flurry is a kind of safety valve, like a release of energy after the tension of lying.'
จับโกหกให้จ้องดูลูกตาไว้ คนพูดโกหกจะกะพริบ ลูกตาผิดปกติ
มหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธของอังกฤษศึกษาพบบทเรียนอันน่าสนใจว่า หากจะจับโกหกใคร ให้คอยจับตาดูดวงตาของผู้นั้นไว้ ทั้งขณะพูดและพูดจบ เพราะจะมีอาการกะพริบตาผิดจากปกติไป
วารสารวิชาการ “พฤติกรรมที่ไม่ใช้คำพูด” เปิดเผยรายงานผลการศึกษาว่า คนพูดโกหกจะกะพริบตาช้ากว่าปกติตอนโกหก แต่พอพูดเสร็จจะกะพริบตาอย่างลุกลี้ลุกลน เร็วกว่าปกติถึง 8 เท่า
ดร.ชารอน ลีลล์ หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าวว่า แบบแผนการกะพริบตา ที่ผิดกันของคนพูดโกหกกับคนพูดจริง นับว่าน่าสนใจมาก “และให้ความเห็นว่า คนพูดโกหกอาจจะพยายามจะกลั้นความจริงเอาไว้ จึงทำให้ไม่ค่อยจะกะพริบตาตอนโกหก คนพูดโกหก มักจะต้องกุเรื่องขึ้น และต้องพยายามสร้างเค้าให้ดูเป็นจริงขึ้นให้มากที่สุด ให้เชื่อมโยงกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คนฟังรู้หรือเคยพบ”
เขาบอกต่อไปว่า “การที่พอพูดโกหกเสร็จ มักจะกะพริบตาถี่กว่าปกติตั้งหลายเท่า ก็เหมือนกับเป็นลิ้นนิรภัย ระบายพลังงานทิ้งหลังจากความกดดันจากการพูดโกหก”
รายงานการศึกษาสรุปว่า ความผิดปกติในการกะพริบตา อาจจะทำให้ผู้เชี่ยว ชาญมืออาชีพ ใช้เป็นเครื่องมือในการจับเท็จได้.
ณศิริ รายงาน
แหล่งที่มา http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1047130/How-spot-lie-Its-blinking-obvious-.html?ITO=1490
“ผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์” บังเกิดขึ้นแล้ว!!
******************************
มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โชว์ผลงาน “ผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์” ที่ทำขึ้นจากแผ่นคาร์บอนตัวนำ ซึ่งบางมากขนาดที่ว่าสามารถพับงอได้ตามรูปทรงที่ต้องการ…แหละนี่เองจึงเป็นที่มาว่าในอนาคตนั้นหุ่นยนต์จะมีผิวหนังที่สามารถรับรู้ความรู้สึกได้.
e-skin หรือผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว มีส่วนผสมของ rubber polymers ทำให้มีความยืดหยุ่นได้สูงและนอกจากจะเอามาเพื่อห่อหุ้มผิวภายนอกของหุ่นยนต์เพื่อทำเป็น sensor ได้แล้วตัว e-skin เองยังเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีได้อีกด้วยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม : sciencemag.org
******************************
Credit : News Online : ไทยโพส
http://www.arip.co.th
รายงานข่าวโดย : นางสาวอารยา เลาหะพันธ์ Edtech15 Code: 51063709
อะโดบีเปิดตัวPhotoshop Lightroom2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทอะโดบี ซิสเต็มส์ อิงค์ ได้ประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ Adobe Photoshop Lightroom 2 ที่เป็นกล่องเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักถ่ายภาพ โดยรองรับการจัดการ การปรับเปลี่ยน และการนำเสนอภาพถ่ายดิจิตอลจำนวนมาก และด้วยส่วนปรับปรุงใหม่ๆ เช่น การสนับสนุนการแสดงผล 2 จอภาพ ความก้าวหน้าในการแก้ไขภาพถ่ายโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย และความสามารถในการค้นหาแบบอัตโนมัติ ทำให้ Lightroom 2 กลายเป็นซอฟต์แวร์อัพเกรดที่น่าสนใจ
รายงานข่าวแจ้งว่า Photoshop Lightroom 2 จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพ ตั้งแต่ขั้นตอนของการถ่ายภาพไปจนถึงขั้นตอนการปรับแต่งขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ Lightroom 2 ยังเป็นแอพลิเคชันแรกของอะโดบีที่สนับสนุนการประมวลผล 64 บิต สำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอชที่ใช้ Mac OS X 10.5 และโพรเซสเซอร์ของอินเทล และระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Vista รุ่น 64 บิต จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยความจำสำหรับการรองรับภาพถ่ายขนาดใหญ่
นายทอม โฮการ์ตี้ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับ Lightroom และ Camera Raw ของอะโดบี กล่าวว่า ชุมชนนักถ่ายภาพทั่วโลกได้จัดหาข้อมูลเชิงลึกและข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ภายใต้โครงการทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ Lightroom 2 ซึ่งช่วยให้เราสามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยอะโดบีได้พิจารณาคำร้องขอของผู้ใช้ และปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถปรับแต่ง ปรับปรุง และนำเสนอภาพถ่ายที่สวยงามได้อย่างรวดเร็ว
ด้าน นายสก็อตต์ เคลบี้ นายกสมาคมผู้เชี่ยวชาญ Photoshop (National Association of Photoshop Professionals - NAPP) กล่าวว่า เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ Lightroom ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากนักถ่ายภาพ คือ อะโดบีพัฒนาซอฟต์แวร์นี้ โดยอาศัยข้อเสนอแนะจากกลุ่มนักถ่ายภาพโดยตรง อะโดบีรับฟังเกี่ยวกับปัญหาและความท้าทายที่นักถ่ายภาพต้องเผชิญอยู่ใน ขณะนี้ จากนั้นจึงพัฒนาโซลูชั่นแบบครบวงจร ที่ตอบสนองความต้องการของนักถ่ายภาพอย่างแท้จริง ส่วนปรับปรุงของ Lightroom 2 เมื่อใช้งานร่วมกับโปรแกรม Photoshop ที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้นักถ่ายภาพสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายระดับมืออาชีพได้อย่างรวดเร็วและไร้ขีดจำกัด
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ Adobe Photoshop Lightroom 2 มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าออนไลน์ของอะโดบี (Adobe Store) ที่ www.adobe.com/store โดยมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ส่วนเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นจะวางจำหน่ายในภายหลัง ราคาประมาณ 299 เหรียญสหรัฐ สำหรับผู้ใช้ใหม่ ส่วนราคาอัพเกรดอยู่ที่ 99 เหรียญสหรัฐ
แหล่งข้อมูล:ไทยรัฐ
ผู้รายงาน : นายฉัตรพันธ์ นิลกำแหง - edtech.15
บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ขานรับการบังคับใช้พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จัดโปรโมชั่น สุดพิเศษ Acer — Hitachi SMS100 โซลูชั่นสตอเรจไซส์เล็ก แต่แฝงขุมพลังใหญ่ระดับไฮเอนด์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่สามารถปกป้องข้อมูลสำคัญทางธุรกิจให้ปลอดภัยด้วย RAID6 สามารถเลือกใช้งานหน่วยควบคุมดิสก์ชุดที่สองที่เป็นอุปกรณ์เสริม และยังรองรับการขยายสูงสุดได้ถึง 12 เทราไบต์ ช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นเรื่องง่าย และไม่ซับซ้อนอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถเลือกชนิดของฮาร์ดดิสก์ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์สำหรับงานประมวลผลหนักอย่าง SAS หรือเน้นการเก็บข้อมูลสำคัญบนฮาร์ดดิสก์ชนิด SATA ที่มีความจุสูงสุดให้เลือกถึง 1 TB ต่อลูก โดยเอเซอร์จำหน่ายในราคาสุดพิเศษเริ่มต้นเพียง 199,000 บาท (รวมค่าติดตั้ง) ตั้งแต่วันนี้ — 30 กันยายน 2551 สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอเซอร์ทั่วประเทศ หรือที่เอเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2685 4311 หรือคลิกไปที่ www.acer.co.th
รายงานโดย:นายภูริลาภ เรืองมณี
แหล่งที่มา :พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
NComputing เขย่าวงการไอที นำเสนอระบบคอมพิวเตอร์ราคาย่อมเยา
บริษัทชั้นนำด้าน Desktop virtualization จับมือกับผู้จัดจำหน่ายในประเทศ มอบโซลูชั่นที่จะสร้างโอกาสในการเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
NComputing ผู้ให้บริการด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ Desktop virtualization ได้ร่วมกับบริษัท สยามเน็ทเวอร์ค แอนด์ คอมพิวเตอร์ จำกัดผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำของประเทศ ในการนำประโยชน์ของ Desktop virtualization นวัตกรรมสุดพิเศษซึ่งมีราคาไม่สูงนัก มาใช้ในวงการธุรกิจและองค์กรต่างๆของประเทศ NComputing โซลูชั่นนี้ ได้ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมภาคต่างๆในประเทศอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้เนื่องจากใช้งบประมาณจำนวนไม่มากนัก เพื่อมอบโอกาสและช่องทางในการเข้าถึงการใช้คอมพิวเตอร์ให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน ลูกค้าของNComputingในประเทศไทย ประกอบไปด้วย โรงเบียร์ชั้นนำ บริษัทด้านอิเล็กโทรนิก และผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ข้ามชาติ องค์กรด้านสาธารณสุข รวมไปถึงโรงเรียนต่างๆมากมาย
“มีโรงเรียนหลายแห่งในประเทศไทยที่ได้ใช้โซลูชั่นของเราในการขยายโอกาสการใช้คอมพิวเตอร์ไปยังนักเรียน ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพวกเขาในการก้าวสู้ชีวิตการทำงาน ซึ่งทักษะด้านคอมพิวเตอร์มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด จึงทำให้โรงเรียนเหล่านี้ได้รับประโยชน์มากมายจากNComputing โดยเราได้เป็นส่วนสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ผ่านการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยนวัตกรรมของเรา” มร.มานิช ชามา รองประธานฝ่ายขาย (เอเชีย-แปซิฟิค) NComputing กล่าว “การลดค่าใช้จ่ายนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจไทย เนื่องจากการมีต้นทุนต่ำ จะทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถรักษาศักยภาพในการแข่งขันของตนเองได้”
NComputing โซลูชั่น มีแนวคิดพื้นฐานจากความเป็นจริงที่ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ มีความสามารถในการทำงานอย่างมาก แต่ทว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่นั้น กลับใช้งานเพียงแค่ส่วนหนึ่งของศักยภาพที่มีทั้งหมด ด้วยซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ Desktop virtualizationของ NComputing ได้จัดการกับศักยภาพส่วนที่ไม่ได้รับการใช้งานนี้ โดยการออกแบบให้คอมพิวเตอร์สามารถแบ่งใช้โดยผู้ใช้หลายๆคนในเวลาเดียวกันได้ ซอฟต์แวร์Desktop virtualization ของNComputing สามารถใช้ได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการวินโดว์ หรือ ลินุกซ์ ในขณะที่หน้าจอ แป้นพิมพ์ และ เมาส์ของผู้ใช้แต่ละคน จะถูกเชื่อมต่อกับaccess deviceของNComputing ซึ่งมีขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพอย่างมาก โดย access device แต่ละเครื่องจะเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ access device ดังกล่าวไม่มีซีพียู หน่วยความจำ หรือชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ดังนั้นจึงง่ายต่อการทำงานและบำรุงรักษา ระบบNComputing กว่า 600,000 เครื่องได้รับความไว้วางใจจากองค์กรกว่า 15,000 แห่ง ในการนำมาใช้งานและได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านคอมพิวเตอร์ไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์
คุณวิชัย อมตมหัทธนะ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามเน็ตเวอร์ค แอนด์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ยังได้เล็งเห็นถึงประโยชน์และข้อได้เปรียบของโซลูชั่นจากNComputingต่อภาคประชาชน โดยได้แสดงความคิดเห็นว่า “ทางรัฐบาลมักจะมีความกังวลเกี่ยวกับการนำงบประมาณไปจัดสรรและใช้ในทางที่เหมาะสม ในขณะที่โซลูชั่นของNComputing นั้น มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่ต่ำ ทั้งยังประหยัดค่าไฟ เนื่องจากระบบการทำงานกินไฟไม่มาก ดังนั้นผมคิดว่าโซลูชั่นจากNComputing จะได้มีส่วนช่วยเหลือองค์กรภาคประชาชนต่างๆในประเทศ ให้มีศักยภาพในการดำเนินงานและส่งผลสู่ชาวไทยทุกท่าน ทั้งนี้ด้วยเงินงบประมาณจากรัฐที่มีการใช้อย่างคุ้มค่าที่สุดเช่นกัน” คุณวิชัย กล่าวเสริม
NComputing และ บริษัท สยามเน็ตเวอร์ค แอนด์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ได้เปิดตัวกิจกรรมต่างๆในครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2551 ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการนำเสนอโซลูชั่นตัวนี้ในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมในงาน ITU Telecom Asia 2008 ในเดือนกันยายนเช่นกัน
ปัจจุบัน NComputing วางจำหน่ายในกว่า 750,000 แห่งทั่วโลก โครงการสำคัญซึ่งเป็นที่รู้จัก ได้แก่ โครงการซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก BRAC หนึ่งในองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร (NGO) ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดย NComputing ได้สนับสนุนการจัดตั้งห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้แก่โรงเรียนในประเทศบังคลาเทศ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเชื่อมความแตกต่างในระดับการเข้าถึงโลกดิจิตอลให้หมดไป ลูกค้าในทวีปเอเซีย ได้แก่ บริษัทผู้ผลิตในสิงคโปร์ Internet Café ในฟิลิปปินส์ รวมถึงศูนย์ Call Center ในประเทศเกาหลี นอกจากนั้น โซลูชั่นของ NComputing ยังได้รับความนิยมในกลุ่มบริษัทตัวแทนด้านกฏหมายทั่วโลก และในฟลอริดา โซล และ อินโดนีเซีย
ข่าวจาก : www.arip.co.th
โดย : ชนกพร บุญศาสตร์
ดีคอมเขย่าตลาดพีซี-โน้ตบุ๊ก จับมือพันธมิตรทั่วโลกส่ง DMA ผงาดแบรนด์ไทย
บริษัท ดีคอมกรุ๊ป จำกัด (ดีคอมพิวเตอร์) บริษัทค้าส่งไอทีขนาดใหญ่ที่ยังมีผู้ถือหุ้นเป็นคนไทย 100% สร้างคอมพิวเตอร์พีซีและโน๊ดบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุด โดยใช้รหัสว่า ”DMA” ภายใต้แนวคิด “Touch your Imagination” จินตนาการที่คุณสัมผัสได้ ซึ่งได้จัดงานเปิดตัววันที่ 20 สิงหาคม 2551 ณ แพลททินั่ม ชั้น 3 โรงแรมแกรนด์เมอเคียว ฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก โดยได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์อีสต์ประเทศไทย จำกัด ในฐานะพันธมิตรทางเทคโนโลยี และพันธมิตรทางธุรกิจอีกหลายบริษัท พร้อมบุกตลาดทั่วประเทศเต็มที่ภายใต้แคมเปญการตลาด “DMA คอมพิวเตอร์ช่วยชาติ”
นายวิกร วิวิธคุณาภรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอมกรุ๊ป จำกัด หรือ ดีคอมเปิดเผยว่า “DMA” มาจากคำ 3 คำ คือ Durability หมายถึงความทนทาน Mobility หมายถึงความยืดหยุ่น คล่องตัว และ Amenity หมายถึง การอำนวยความสะดวกให้กับทุกคน การใช้ชื่อ DMA เป็นชื่อแบรนด์ เพราะเป้าหมายของสินค้ามุ่งตอบโจทย์ 3 ข้อนี้ให้แก่ผู้บริโภค
“การที่ดีคอมเลือกเปิดตัว DMA ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากดีคอมมองเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ DMA ทำตลาดได้โดยประสบความสำเร็จเพราะ DMA ได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากผู้ผลิตชิ้นส่วนขนาดใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะซีพียูจาก AMD ซึ่งจะทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้ใกล้เคียงกับเครื่อง Inter-brand โดย DMA ใช้แนวทางการเป็นคอมพิวเตอร์แบรนด์เนมมาตรฐาน แต่มีราคาประหยัด ซึ่งเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีความจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายในทุกด้าน โดยการทำตลาดของ DMA จะใช้แนวคิดที่เรียกว่า DMA คอมพิวเตอร์ช่วยชาติ สร้างคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดที่ใช้งานได้คุ้มค่าสูงสุด”
ผู้บริหารดีคอมกล่าวด้วยว่า โครงสร้างธุรกิจในการเป็น IT Distributor ของดีคอมกรุ๊ป เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ DMA แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เนื่องจากดีคอมนำเข้าสินค้าชิ้นส่วนเอง มีโรงงานการผลิตเป็นของตนเอง ในขณะที่ Local Brand ต้องซื้อชิ้นส่วนผ่าน Distributor อีกทอดหนึ่ง ในกรณีนี้ทำให้ DMA ได้เปรียบในแง่ราคา ดีคอมมีเครือข่าย Dealer กว่า 3000 รายทั่วประเทศ ซึ่งซื้อสินค้าชิ้นส่วนของดีคอมอยู่แล้ว ดังนั้น DMA ไม่ต้องไปสร้างพันธมิตรร้านค้ารายย่อยใหม่แต่อย่างใด รวมทั้งการบริการจะรวดเร็วกว่า Local Brand และ Inter-brand ซึ่งต้องมีการพักสินค้าหลายทอด เช่น ที่โรงงานของ Local Brand หรือที่ Distributor นั้นเป็นต้น แต่ DMA เมื่อเกิดปัญหาจะสามารถนำมาเคลมตรงที่ดีคอมได้ทันที ทำให้ระยะเวลาในการบริการสั้นลง สุดท้ายคือ เนื่องจากดีคอมเป็นผู้ค้าชิ้นส่วนที่มีชิ้นส่วนไอทีจำนวนมาก หลากหลายยี่ห้ออยู่ในมือ “เราได้ทำโครงการ Dcom@click ที่ดีลเลอร์สามารถ สั่งผลิต DMA คอมพิวเตอร์ตามสเปคที่ต้องการได้ โดยที่ Local Brand และ Inter-brand ไม่สามารถทำได้ นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ดีคอมมั่นใจว่า DMA มาถูกเวลา”
ต่อข้อซักถามที่ว่าการจัดงานเปิดตัวคอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ๊ก DMA ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ โรดโชว์ สามารถกระตุ้นการซื้อสินค้าได้มากน้อยเพียงใด ผู้บริหารดีคอมเผยว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการประชาสัมพันธ์ทั้งหมดตามโครงการคอมพิวเตอร์ช่วยชาติ ซึ่งต่อจากนี้ไป DMA จะลงไปสัมผัสกับผู้บริโภคโดยตรงทั่วทุกภาคของประเทศ ผ่านการจัดงาน Roadshow ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสสินค้าโดยตรง มีความเชื่อมั่น และได้เห็นความคุ้มค่าด้านราคา
“สำหรับการตลาดของ DMA คือ “เกาะติดพื้นที่” อย่างเต็มที่ และทำตลาดร่วมไปกับดีลเลอร์ ซึ่งจะเป็นครั้งแรก ที่ทั้งพันธมิตรผู้สนับสนุน เช่น AMD ดีคอมและตัวแทนจำหน่ายทำตลาดไปพร้อมกันในครั้งเดียว โดยมีส่วนสนับสนุนสำคัญคือการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของ Mass Communication ที่จะช่วยให้ผู้บริโภครู้จักและยอมรับ DMA ได้อย่างรวดเร็วขึ้น ”
นายจักกฤษณ์ วัชระศักดิ์ศิลป์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์อีส ประเทศไทย จำกัด ในฐานะพันธมิตรทางเทคโนโลยีหลัก กล่าวว่า “ดีคอมกรุ๊ปนับเป็นพันธมิตรหลักด้านช่องทางการจัดจำหน่ายของเอเอ็มดี “DMA” จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในวันนี้ และเอเอ็มดีมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ DMA เอเอ็มดีมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลและกราฟฟิคที่มีสมรรถนะสูงที่มีจุดเด่นในการผสมผสานทั้งสองสิ่งได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งานและการสร้างความบันเทิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ผู้ใช้สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่ง Dcom@click สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับทั้งคู่ค้าและลูกค้าในการสร้างสรรค์ฮาร์ดแวร์ที่ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ทอปหรือโน้ตบุ๊คที่ตรงกับความต้องการได้ เราพร้อมจะให้การสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีของเรากับดีคอมฯ เพื่อให้ผู้ใช้ได้มีประสบการณ์ตามการใช้งานจริง”
นายวิกร กล่าวถึงความคาดหวังกับสินค้าใหม่ตัวนี้ของดีคอมว่า ตั้งเป้าไว้ในช่วงแรกที่ 15,000 เครื่อง ในไตรมาสสุดท้าย ทั้งโน้ตบุ๊กและพีซีรวมกัน สินค้ากลุ่ม PC เน้นการทำตลาดไปที่นักศึกษา สถาบันการศึกษาและต่างจังหวัด ส่วนกลุ่มโน้ตบุ๊ก และแทบเลป(Tablet) นั้นจะเน้นกลุ่มคนเมือง กลุ่มคนที่จะใช้คอมพิวเตอร์เครื่องที่สองในชีวิตประจำวัน
“คอมพิวเตอร์ช่วยชาติ” หมายถึง การให้ผู้บริโภคได้สัมผัสสินค้าคุณภาพในราคาประหยัดลงจากการร่วมมือกันของหลายฝ่าย รวมไปถึงการจัดหาโซลูชั่นในการใช้งาน DMA ร่วมกับพันธมิตรซอฟท์แวร์ต่าง ๆ ที่จะทำให้ผู้บริโภคซื้อคอมพิวเตอร์ไปใช้ในงานที่ต้องการได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นระบบบัญชี ระบบการเรียนการสอนต่าง ๆ ซึ่งเป็นแนวคิดเรื่อง IT HYBRID ที่ดีคอมมุ่งสานต่อ และสุดท้ายคือการที่ DMA จะทำให้ผู้ค้าปลีกหรือ Dealer มีกำไรจากการขายที่เป็นธรรม เนื่องจากความแตกต่างของสินค้าที่นำเสนอพร้อมโซลูชั่นต่าง ๆ โดย PC ตัวเล็กสุดจะเปิดราคาขายปลีกที่ประมาณ 8,290 บาท และ Notebook DMA D1 เปิดราคาที่ 9,196 บาท หากเปรียบเทียบคุณภาพการประกอบและมาตรฐานสินค้าเดียวกัน เชื่อว่าไม่มีคู่แข่งรายใดให้ราคาต่ำกว่านี้ได้ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้าที่มีราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น”
ผู้บริหารดีคอมกล่าวในตอนท้ายว่า
“ดีคอมมุ่งมั่นในการสร้าง DMA เป็นคอมพิวเตอร์ที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับตลาดอย่างแท้จริง และอยากให้คนไทยสร้างแบรนด์และสร้างคุณค่าในลักษณะนี้มาก ๆ ถ้าเราช่วยกันทำมาก ประเทศไทยจะแข่งขันได้มากขึ้น สำหรับ DMA เป้าหมายของเราคือแข่งกับ Inter-brand ให้ได้ และมีเป้าหมายสำคัญที่จะส่ง DMA สู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านภายในปี 2552”
ข่าวจาก : www.arip.co.th
โดย...ดารณี โต๊ะสวัสดิสุข
พรินท์กระเป๋า"ใหม่จากแคนนอน
หลังจากส่ง SELPHY ES2 และ SELPHY ES20 มากรุยทางตลาดเครื่องพิมพ์รูปทรงเก๋ ล่าสุดแคนนอนเปิดตัว SELPHY ES3 ด้วยหน้าจอแอลซีดีขนาดใหญ่กว่า 3.5 นิ้ว และ SELPHY ES30 จอแอลซีดี 3 นิ้ว เพิ่มเอฟเฟกต์ภาพ 3 ลูกเล่นใหม่เอาใจคนชอบแต่งภาพ โดย SELPHY ES3 มาพร้อมหน่วยความจำในตัว 1GB ให้ผู้ใช้เก็บภาพที่ชอบไว้ในเครื่องซึ่งจะง่ายต่อการพิมพ์ซ้ำ
SELPHY ES3 และ SELPHY ES30 สามารถพิมพ์ภาพที่ใช้สีแวววาวได้หากใช้ชุด Easy Photo Packs ซึ่งประกอบด้วยกระดาษและหมึกพิมพ์พิเศษสีทอง Gold (E-P20G) และสีเงิน Silver (E-P20S) ร่วมด้วย สามารถนำไปพิมพ์เป็นการ์ดสวยหรูได้ตามชอบใจ
ขณะเดียวกัน แคนนอนออกแบบให้เครื่องพิมพ์ตระกูล SELPHY สามารถปรับแต่งภาพเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์ สามารถกลับภาพ เพิ่มเอฟเฟกต์ ใส่ภาพตัดปะ หรือใส่กราฟฟิกกรอบรูปได้ตามชอบ โดยเอฟเฟกต์ภาพลูกเล๋นใหม่ได้แก่ Modern Bright สำหรับใส่ความสว่างให้ภาพ และ Pin-hole Camera ที่จำลองขอบวงกลมสไตล์เทคนิคภาพที่ได้จากเลนส์ย่นระยะในกล้องรุ่นเก่า
SELPHY ES3 และ ES30 ถูกการันตีว่าออกแบบมาให้ประหยัดเนื้อที่ใช้สอยสุดๆ ภาพจากเครื่องพิมพ์จะถูกส่งออกมาจากด้านบน มาพร้อมหูหิ้วง่ายต่อการพกพา และช่องใส่เมมโมรี่การ์ดเสียบง่ายดึงรูปเร็ว
ไม่มีรายงานว่าความเร็วในการพิมพ์ของ SELPHY ES3 และ ES30 อยู่ในระดับใด แคนนอนระบุเพียงว่าด้วยโปรเซสเซอร์ DIGIC II จะทำให้งานพิมพ์คุณภาพสูงสามารถทำได้เร็ว หมึกพิมพ์พิเศษสามารถปกป้องภาพจากอันตรายของฝุ่น สามารถพิมพ์ภาพได้โดยตรงจากเมมโมรี่การ์ด กล้องวีดีโอ หรือกล้องดิจิตอลทั่วไป รองรับการพิมพ์ไร้สายผ่าน IrDA IR (เฉพาะรุ่น SELPHY ES3) และ Bluetooth (เมื่อซื้ออุปกรณ์เสิรม BU-30 Bluetooth Unit) สามารถเลือกพิมพ์ภาพแบบพิเศษที่จะทำให้ภาพพิมพ์อยู่ได้ถึง 100 ปีด้วย
ที่มาพร้อมกับ SELPHY ES3 และ ES30 คือซอฟต์แวร์เพื่อการจัดการ เก็บบันทึก และพิมพ์ภาพผ่านเครื่องพีซี ซอฟต์แวร์นี้สามารถรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows 2000 SP4/XP SP1/SP2/Vista 64 บิต และ Mac OS X (Version10.4-10.5)
Canon Selphy ES3 และ ES30 สนนราคา 199.99 เหรียญ (ราว 6,600 บาท) และ 149.99 เหรียญ (ประมาณ 4,950 บาท) ตามลำดับ
โดย ปวริศา ธีระนังสุ รหัส 51063705
แหล่งข่าว : ผู้จัดการออนไลน์
27 สิงหาคม 2551 16:13 น.
แสดงความคิดเห็น