วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2551

News Cards Posting for 16/08

Edtech 15 Please post your News Cards Home works by clicking on "comments"
เขียนโดย ที่

7 ความคิดเห็น:

yosongkhla กล่าวว่า...

บริษัทเอสวีโอเอ จำกัด(มหาชน) เปิดตัวโน้ตบุ๊ก SVOA อพอลโล นวัตกรรมโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด ที่นำสุดยอดเทคโนโลยีการประมวลผลล้ำยุคใหม่ล่าสุดจากอินเทล Centrino 2 Processor มีความเร็วสูงถึง2.26GHz และแคชระดับสองที่มากถึง 3MB ทำงานบนระบบบัส 1066MHz และเพิ่มหน่วยความจำ 4 กิ๊กกะไบท์ DDR2-800 แพลตฟอร์ม อินเทล เซนทริโน 2 โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี ใช้ชิปเซต Intel PM45 ตัวใหม่ พร้อมเทคโนโลยี Wifi ที่มีความเร็วสูงกว่าเดิมถึง 5 เท่าเพื่อการเชื่อมต่อที่เร็วยิ่งขึ้น พร้อมออปชั่นพิเศษเพื่อรองรับ Wimax เทคโนโลยีในอนาคต
โน้ตบุ๊ก SVOA อพอลโล มีรูปลักษณ์ภายนอกสวยหรูมีระดับในแบบทูโทนดำ-ขาว สะดุดตา โดดเด่นด้วยดีไซน์สีดำเข้มด้านนอก สไตล์ Hi-Gross ผสมผสานลายกราฟิก เพิ่มความรู้สึกพลิ้วไหว สลับอารมณ์ ด้วยสีขาวนวลมุกด้านใน เพิ่มความหรูหราน่าใช้งาน ส่วนการแสดงผลผ่านหน้าจอ WXGA LCD 14.1” ที่ให้ความละเอียดได้มากถึง 1440 x 900 พิกเซล มีความคมชัดและสีสันที่สดใส มีการเคลือบกันแสงสะท้อน
โน้ตบุ๊กอพอลโล (SVOA Apollo ) เปิดตัวจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Apollo C2D22600A และ รุ่น Apollo C2D22600B ในราคา 34,900 บาท และ 39,900 บาท สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์เอสวีโอเอและศูนย์บริการเอสวีโอเอทั่วประเทศ และเอสวีโอเอคอล์ลเซ็นเตอร์
รายงานโดย: นายภูริลาภ เรืองมณี

15 สิงหาคม 2551 เวลา 11:21
RedAngel กล่าวว่า...

Uniforms can color judgment when referees see red

A study has found choosing the color red for a uniform in competitive sports can affect the referee's split-second decision-making ability and even promote a scoring bias.

Red is thought to bring good luck for Chinese and is the color of items ranging from packets of lucky money handed out at Lunar New Year to lanterns and wedding dresses.

And Tiger Woods famously wears red on the last day of a golf tournament for luck.

Now psychologists Norbert Hagemann, Bernd Strauss and Jan Leissing from Germany's University of Muenster have found referees tended to assign more points to taekwondo competitors dressed in red than those dressed in blue.

The study, published in the August issue of Psychological Science, was conducted by the researchers presenting 42 taekwondo referees with videos of blue- and red-clad competitors sparring.

The two sets of clips were identical except that the colors were reversed in the second set so the red athlete appeared to be wearing blue and vice versa.

After each video the referees were asked to score the performance of each competitor, red or blue.

The psychologists said competitors wearing red were awarded an average of 13 percent more points and the points seemed to increase after the blue athlete was digitally transformed into a red athlete and decrease when the red competitor turned blue.

"Referees' decisions will 'tip the scales' when athletes are relatively well-matched but have relatively small influence when one is clearly superior," the researchers said in a statement.

"Although there is a need for further research, including research on the effects of different colors, our results suggest a need to change the rules or support referees by providing electronic decision-making aids in those sports in which this color bias may be a problem."

ชุดนักกีฬาสีแดงแรงฤทธิ์ บีบหัวใจกรรมการให้เอน เอียงไป

นักจิตวิทยาพบว่า นักกีฬาที่อยู่ในชุดสีแดง สามารถกดดันกรรมการให้เอนเอียงเข้าข้างตนได้

นักจิตวิทยานอร์เบิร์ท ฮาเกมานน์, เบิร์นด์ สเตราส์ และแจน เลสสิง มหาวิทยาลัยมูนเอนสเตอร์ที่เยอรมนี ศึกษาร่วมกันพบว่า ผู้ตัดสินมักจะให้แต้มนักกีฬาเทควันโดคนที่อยู่ในชุดแดงมากกว่าคู่ต่อสู้ชุดสีน้ำเงิน
พวกเขารายงานผลการศึกษาในวารสารวิชาการ “จิตวิทยาศาสตร์” ว่า ได้ทำการทดลองกับกลุ่มผู้ตัดสินกีฬาเทควันโด 42 นาย โดยให้ ตัดสินจากวีดิโอการต่อสู้ของนักกีฬาในชุดแดงกับชุดน้ำเงิน คนละ 2คู่ โดยที่ผู้ตัดสินเหล่านั้นไม่ทราบว่า นักกีฬาคู่หลังก็ยังคงเป็นคนชุดเดิม หากแต่สลับสีชุดแต่งกายกัน

ปรากฏว่า ทุกคนล้วนแต่ให้แต้มคนชุดแดงมากกว่าชุดสีน้ำเงิน เฉลี่ยกันแล้วร้อยละ 13

คณะนักวิจัยมีความเห็นว่า เนื่องจากสีเสื้อผ้านักกีฬามีอิทธิพลต่อการตัดสินของกรรมการ ในการแข่งขันกีฬา ที่สีเสื้อผ้าของนักกีฬาอาจก่อปัญหาขึ้นได้ จึงควรจะมีเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ช่วยในการตัดสินของกรรมการด้วย.

ณศิริ รายงาน
แหล่งที่มา
http://news.yahoo.com/s/nm/20080811/sc_nm/olympics_red_dc
http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=100625

15 สิงหาคม 2551 เวลา 19:15
pavarisa กล่าวว่า...

นักวิจัยปลาดิบปูทาง"e-skin"ให้หุ่นยนต์

ทีมนักวิจัยญี่ปุ่นประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัสดุประเภทยางที่มีความสามารถในการนำไฟฟ้าได้ดี มั่นใจจะสามารถนำไปพัฒนาเป็นผิวหนังของหุ่นยนต์หรือ e-skin แบบยืดหยุ่นได้ที่จะทำให้หุ่นยนต์สามารถรู้สึกร้อนหรือรับรู้แรงกดทับเหมือนผิวหนังมนุษย์

ความสำเร็จนี้เป็นผลงานของทีมนักวิจัยฝ่ายวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยโตเกียว ทากาโอะ โซเมยะ ตัวแทนนักวิจัยให้ข้อมูลว่า วัสดุดังกล่าวเป็นวัสดุแรกของโลกที่สามารถนำมาแก้ปัญหาซึ่งนักพัฒนาหุ่นยนต์พบเจอในวัสดุประเภทเหล็ก และยางรุ่นใหม่ที่พัฒนาได้มีคุณสมบัตินำไฟฟ้ามากกว่ายางทั่วไปถึง 570 เท่า

ปัญหาในวัสดุประเภทเหล็กที่ทากาโอะกล่าวถึงคือ เหล็กสามารถนำไฟฟ้าได้ดีแต่ไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ขณะที่ยางสามารถยืดหยุ่นได้แต่นำไฟฟ้าได้ไม่ดี ความสามารถที่สวนทางกันทำให้นักพัฒนาหุ่นยนต์ไม่สามารถสร้างผิวหนังอัจฉริยะให้สมองกลได้ตามต้องการ เนื่องจากนักพัฒนาจะต้องฝังเซ็นเซอร์รับข้อมูลจำนวนมหาศาลไว้ที่ผิวหุ่น แปลว่าวัสดุที่นำมาทำผิวหุ่นจะต้องยืดหยุ่นและนำไฟฟ้าได้ดี

ทีมนักวิจัยเชื่อว่าวัสดุใหม่นี้คือคำตอบที่นักพัฒนาหุ่นยนต์ต้องการ ทากาโอะระบุว่ายางรุ่นใหม่นี้มีคุณสมบัตินำไฟฟ้ามากกว่ายางทั่วไปถึง 570 เท่า จากการทดลองพบว่า วัสดุนี้สามารถนำไปสร้างวงจรไฟฟ้าที่ยืดได้ถึง 1.7 เท่าของขนาดเดิม สามารถนำไปติดตั้งบนชิ้นส่วนที่มีความโค้งมนโดยไม่มีผลกระทบต่อการรับส่งไฟฟ้าภายในวงจร

ข้อมูลระบุว่า ยางพันธุ์ใหม่นี้ทำจากยางฝังคาบอนนาโนทูบ (Carbon Nanotube) หรือกลุ่มโมเลกุลคอร์บอนในรูปแท่งและไอออนิคลิควิด (Ionic Liquid) ซึ่งเป็นอะตอมเหลวที่มีประจุบวกและลบ สามารถยืดได้สูงสุด 2.3 เท่าของขนาดเดิม แต่ความสามารถในการนำไฟฟ้าจะลดลงครึ่งหนึ่ง สำหรับการยืดที่ไม่มีผลต่อการนำไฟฟ้าคือ 38 เปอร์เซ็นต์

นี่คือก้าวแรกของความสำเร็จเท่านั้น ทีมพัฒนาระบุว่ากำลังเตรียมการทดสอบการประยุกต์ใช้ต่อเนื่องอีกหลายปี มองว่าไม่จำเป็นต้องจำกัดการใช้งานยางพันธุ์ใหม่นี้ในรูปผิวหนังของหุ่นยนต์เท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการแฝงตัวอย่างแนบเนียนในชีวิตประจำวันได้

"ความสามารถในการติดตั้งวงจรบนชิ้นส่วนโค้งมนจะปลดขีดจำกัดที่นักพัฒนาพบเจอในอดีต ตัวอย่างเช่น สามารถนำไปใช้กับระบบช่วยขับรถที่ผู้ใช้จะไม่รู้สึกว่ามีการฝังเซ็นเซอร์ไว้ที่อุปกรณ์ หากนำไปใช้เป็นผิวหุ่นยนต์ก็ยิ่งดีเยี่ยม เช่นในหุ่นยนต์ดูแลเด็ก หุ่นยนต์จำเป็นต้องสามารถรับรู้อุณหภูมิของเด็กด้วย"
รายงาน :ปวริศา ธีระนังสุ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 สิงหาคม 2551 10:12 น.

15 สิงหาคม 2551 เวลา 19:56
araya15 กล่าวว่า...

เปลี่ยนแรมเป็นฮาร์ดดิสก์ด้วย ACARD
ถ้าใครที่เคยได้ยินชื่อของอุปกรณ์ที่ว่าชื่อว่า “I-RAM” ที่ผลิตโดย Gigabyte ก็คงจะรู้จักกันดีว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเปลี่ยนแรมที่ใส่บนคอมพิวเตอร์ของเราเป็นฮาร์ดดิสก์ได้ ซึ่งนั่นมันก็นานหลายปีมาแล้วครับที่ไม่ได้มีการเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาต่อยอดเพิ่มเติม จนกระทั้งล่าสุดได้มีการลอกเลียนแบบการทำงานของเจ้า I-RAM ดังกล่าวขึ้นมาอีก แต่ทว่ารุ่นใหม่นี้ใส่แรมได้มากกว่าเดิมและรองรับหน่วยความจำ DDR2 ซะด้วย โดยมันมีชื่อเก่ๆ ว่า “ACARD”

ACARD เป็นฮาร์ดดิสก์ที่ทำขึ้นมาจากการเอาแรมหลายๆ ตัวมาต่อใช้งานร่วมกัน โดยภายในตัวมันเป็นกล่องขนาด 5.2 นิ้ว ที่มีแผงเสียบแรมจำนวน 8 ช่อง ที่สามารถรับความจุของแรมได้สูงสุดช่องละ 4 GB โดยจะมีแหล่งจ่ายไฟเป็นของตนเองเพื่อจะไม่ทำให้ความจำบนตัวแรมนั้นหายไปเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์อีกด้วย

ประโยชน์ของเจ้าอุปกรณ์ที่ชื่อ ACARD นี้คือมันจะส่งผลดีต่อการใช้งานด้านการอ่าน-เขียนข้อมูลที่จะรวดเร็วกว่าฮาร์ดดิสก์หลายเท่าเพราะมันไม่ต้องมีหัวอ่าน ไม่จำเป็นต้องใช้จานแม่เหล็ก ทำให้การเข้าถึงข้อมูลใช้เวลาน้อยมากๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำเป็นฮาร์ดดิสก์สำหรับติดตั้ง OS หรือฮาร์ดดิสก์ที่ต้องมีการอ่าน-เขียนข้อมูลขนาดใหญ่ๆ บ่อยๆ ครั้ง เช่น ในเครื่องตัดต่อวิดีโอเป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติม : akiba
เรียบเรียงโดย @ Hardware.ARiP.co.th

Credit : News Online : ไทยโพส
http://www.arip.co.th

รายงานข่าวโดย : นางสาวอารยา เลาหะพันธ์ Edtech15 Code: 51063709

15 สิงหาคม 2551 เวลา 19:57
chanokporn กล่าวว่า...

“Larrabee” เทคโนโลยีชิปกราฟิกใหม่จาก Intel


“Larrabee” เป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาของวงการทหารที่ได้หยิบเอาเทคโนโลยีในการผลิตซีพียูของอินเทลไปพัฒนาต่อเพื่อใช้ในวงการทหารเอง และเมื่อมันลดบทบาทลง อินเทลก็ได้หยิบเอาเทคโนโลยีที่กองทัพไม่ได้สนใจแล้วมาพัฒนาต่ออีก เพื่อนำมาประยุคใช้กับชิปกราฟิกรุ่นใหม่ของตนในชื่อเทคโนโลยี “Larrabee” นั่นเองครับ

Larrabee นั้นจะทำงานคลายๆ เซลซีพียูหลายๆ ตัวประมวผลข้อมูล ด้านกราฟิก ซึ่งมันจะดีกว่าที่กินไฟน้อย แถมยังทำงานคล้ายๆ ซีพียูแบบหลายๆ คอร์ ที่สำคัญผู้พัฒนาเกมเองก็ไม่ต้องไปเรียนรู้การเขียนเกมแบบใหม่เพราะ Larrabee นั้นรองรับกับโค๊ตเดิมแบบ DirecX และ OpenGL อยู่แล้วนั่นเองครับ.

ทั้งนี้อินเทลเผยต่ออีกว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเริ่มนำมาใช้กับชิปกราฟิกของตนในปีหน้านี้เพื่อแย่งชิงตลาดชิปกราฟิกให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะมีคู่แข่งอย่าง nVidia แต่ทว่าก็ยังคงทิ้งกันอีกหลายขุม เนื่องจากในขณะนี้ nVidia กำลังพบปัญหาหลายอย่าง ตั้งแต่ปัญหาเรื่องการทำงานผิดพลาดของชิปกราฟิก จนไปถึงปัญหาภายในเองครับ.
ข่าวจาก:www.arip.co.th
โดย: ชนกพร บุญศาสตร์

15 สิงหาคม 2551 เวลา 20:01
daranee กล่าวว่า...

จอ LCD Fujitsu Siemens ใช้ไฟแค่ 0 วัตต์


Fujitsu Siemens แบร์นนี้อาจจะไม่คุ้นหูมากนักในวงการจอภาพ เพราะนี่เป็นการร่วมมือกันขึ้นมาพิเศษเพื่อร่วมพัฒนาจอภาพแอลซีดีรุ่นใหม่เพื่อให้ประหยัดไฟให้ได้มากที่สุด ซึ่งผลที่ได้หลังการพัฒนาเขาสามารถผลิตจอภาพแอลซีดีขนาด 20 และ 22 นิ้ว รุ่น P20W-5 ECO และ P22W-5 ECO ที่ไม่ใช้ไฟเลยได้สำเร็จ ซึ่งการไม่ใช้ไฟเลยนั้นจะอยู่ในสภาวะ save mode เท่านั้น โดยตัวจอภาพจะตัดการทำงานทุกอย่างเองอัตโนมัติเอง
ทั้งนี้ตามปกติจอภาพทั่วไปแม้จะเข้าสู่สภาวะ save mode แต่ก็จะมีไฟเลี้ยงหน้าจออยู่เล็กน้อยเพื่อรอสัญญาณภาพมาจากหน้าจอแล้วจอภาพจะได้พร้อมใช้งานได้ทันทีทันใด แต่สำหรับจอภาพของ Fujitsu Siemens รุ่นดังกล่าวจะเป็นการปิดสวิทช์ของตัวจอภาพไปเลยจึงทำให้อัตราการใช้ไฟนั้นไม่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อยครับ ซึ่งในอนาคต Fujitsu Siemens มีแผนที่จะนำไปใช้งานกับจอภาพขนาด 24 - 26 นิ้ว ต่อไปอีกด้วย.

ข่าวจาก : www.arip.co.th
ดารณี โต๊ะสวัสดิสุข

15 สิงหาคม 2551 เวลา 20:05
chatphan กล่าวว่า...

ไอซีทีปิดกั้นเว็บล่อแหลม

นายวินัย อยู่สบาย ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า กระทรวงได้ดำเนินการตามขั้นตอนของพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กับเว็บไซต์ล่อแหลมอย่างต่อเนื่อง

โดยใช้อำนาจศาลปิดกั้นข้อมูลไม่ให้เผยแพร่ หรือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจับกุมผู้ให้บริการเว็บไซต์ล่อแหลมในประเทศ ล่าสุดได้จับกุมและดำเนินคดีกับเว็บไซต์ที่เผยแพร่สิ่งลามกอนาจาร เช่น nisitgirl.com munzad.com รวมทั้งเว็บไซต์ที่ให้บริการเกี่ยวกับการโหลดสื่อ คือ ทั้งเนื้อหา ภาพ เพลงและวีซีดีลามกอนาจารต่างๆ อีกหลายเว็บ

อย่างไรก็ตาม คงมีเว็บไซต์ที่ละเมิดกฎหมายอยู่เป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือจากประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งร้องเรียน เมื่อพบเห็นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม หรือกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์อื่นๆ รวมทั้งขอให้พ่อแม่ผู้ปกครอง และสถานศึกษานำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ป้องกันเว็บไซต์และเกมที่ไม่เหมาะสม หรือผิดศีลธรรม โดยใช้โปรแกรมไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ 2008 ดาวน์โหลดฟรีที่ www.icthousekeeper.com

แหล่งข้อมูล - http://www.bcoms.net/news/
ผู้รายงาน - นายฉัตรพันธ์ นิลกำแหง
edtech.15

15 สิงหาคม 2551 เวลา 23:24

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น (Atom)