ladkrabang2007: News Cards Posting for 05/07

วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2551

News Cards Posting for 05/07

Edtech 15 Please post your News Cards Home works by clicking on "comments"

7 ความคิดเห็น:

chatphan กล่าวว่า...: 9 โครงการทางวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เว็บไซต์ Discovery Channel ได้จัดอันดับโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 9 โครงการที่ใหญ่ที่สุด (มีแซวเล่นๆ ด้วยว่า “นับตั้งแต่สร้างปีรามิดขึ้นมา”) ไม่เรียงลำดับ ทั้ง 9 โครงการได้แก่

* Large Hadron collider - น่าจะรู้จักกันหมดแล้ว ถ้ายัง ดูข่าวเก่า
* The International Thermonuclear Experimental Reactor (ITER) - เตาปฏิกรณ์ฟิวชัน ตั้งอยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส กำหนดเสร็จปี 2015 ถ้าทำงานแล้วจะผลิตพลังงานฟิวชันได้ 500 MW ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
* สถานีอวกาศนานาชาติ - เวอร์ชันสมบูรณ์ กำหนดเสร็จปี 2011
* หอคอยพลังแสงอาทิตย์ในออสเตรเลีย - สูง 3,280 ฟุตหรือประมาณหนึ่งกิโลเมตร ที่ต้องสร้างให้สูงขนาดนี้เพราะต้องการทดสอบหลัก “อากาศร้อนลอยขึ้น” ว่าจะเอามาปั่นไฟได้ขนาดไหน หอคอยที่ทำงานเต็มประสิทธิภาพจะผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 200 MW
* โปรแกรมจำลองสภาพอากาศโลก - เหมือน SETI@Home แต่เป็นการจำลองภาวะโลกร้อนแทน รายละเอียดดูได้จาก climateprediction.net
* กล้องโทรทรรศน์ James Webb Space Telescope - NASA สร้างแทนกล้องฮับเบิลตัวเก่า จะลอยในวงโคจรระดับ 1.5 ล้านกิโลเมตรเหนือผิวโลก สูงกว่าฮับเบิล 3 เท่าตัว กำหนดเสร็จปี 2013
* Svalbard International Seed Vault - นอร์เวย์ขุดถ้ำใต้ภูเขาบนเกาะแถวๆ ขั้วโลกเหนือ เพื่อเก็บรักษาพันธุ์พืชที่เป็นอาหารทุกชนิดในโลก ป้องกันการสูญพันธุ์พืชในอนาคต
* ลิฟต์อวกาศ - เพื่อขนย้ายวัตถุขึ้นสู่วงโคจรได้ในราคาถูกกว่าการยิงจรวด
* ANTARES - กล้องโทรทรรศน์ใต้น้ำ เป้าหมายคือตรวจหาอนุภาคนิวตริโน อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตอนใต้ของฝรั่งเศส

แหล่งทีมาข้อมูล:Discovery Channel
http://www.blognone.com
ผู้รายงาน : นายฉัตรพันธ์ นิลกำแหง
Edtech.15
code : 51063707; 3 กรกฎาคม 2551 เวลา 08:11
chanokporn กล่าวว่า...: อโดบีส่งทูลใหม่ ให้กูเกิลเสิร์ชเจอวีดีโอ"Flash"ง่ายขึ้น
ในอดีต เสิร์ชเอนจิ้นทุกค่ายไม่ว่าจะเป็นกูเกิลหรือยาฮูล้วนมีปัญหาสืบค้นไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่สร้างจากโปรแกรมแฟลช (Flash) ได้ยากเพราะเป็นไฟล์ที่ไม่มีข้อความใดๆให้ระบบได้ตรวจสอบ ล่าสุด อโดบี (Adobe Systems) ระบุว่าทูลใหม่ของค่ายจะทำให้เสิร์ชเอนจิ้นสามารถค้นพบไฟล์วีดีโอแฟลชได้ง่ายขึ้น ส่งให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถค้นหาและชมไฟล์วีดีโอแฟลชที่ต้องการได้สะดวกโยธินกว่าเดิม
อโดบีเปิดตัวทูลใหม่ที่ว่านี้โดยพัฒนาจากซอฟต์แวร์ Flash Player แม้ผลที่ได้จะไม่ถึงขั้นที่ว่า เสิร์ชเอนจิ้นสามารถเข้าใจคอนเทนท์แฟลชได้เหมือนคนที่ได้ชมไฟล์วีดีโอจริงๆ แต่อโดบียืนยันว่า เสิร์ชเอนจิ้นจะสามารถจัดอันดับและทำดัชนีคอนเทนท์แฟลชที่หลายเว็บไซต์ใช้ทำเป็นเมนูหรือโฆษณาเคลื่อนไหวได้ง่ายและละเอียดขึ้นกว่าเดิม
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ข้อจำกัดของทูลนี้คือ ระบบเสิร์ชเอนจิ้นจะยังคงจัดทำดัชนีได้เฉพาะจากชื่อไฟล์และข้อความอื่นๆที่แนบมากับไฟล์วีดีโอเท่านั้น ไม่ได้อัจฉริยะถึงขั้นแปลรูปภาพในวีดีโอแฟลชออกมาเป็นข้อความให้ระบบตรวจจับได้ ทั้งรูปภาพข้อความหรือสัญลักษณ์บนท้องถนน ซึ่งยังเป็นข้อจำกัดของระบบเสิร์ชเอนจิ้นในปัจจุบัน ที่แม้จะพัฒนาให้ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลประเภทข้อความในคอนเทนท์แฟลชแบบพื้นฐานได้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลประเภทนี้ได้อย่างทั่วถึง
แม้จะมีข้อจำกัดนี้ แต่ Bill Coughran รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของกูเกิลยอมรับว่า การพัฒนาใดๆที่ทำให้คอนเทนท์แฟลชวีดีโอสามารถสืบค้นเจอได้ง่าย ล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้อินเตอร์เน็ตโดยรวมทั้งสิ้น
ทูลใหม่นี้ถูกส่งให้กูเกิลใช้งานแล้ว ขณะที่ยาฮูมีแผนจะใช้งานในเร็วๆนี้ โดยอโดบีจะขยายการซัปพอร์ตแก่เสิร์ชเอนจิ้นรายอื่นต่อไป และยืนยันว่า นักออกแบบเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหรือดำเนินการใดๆเพื่อรองรับทูลใหม่ตัวนี้

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
รายงาน : ชนกพร บุญศาสตร์; 3 กรกฎาคม 2551 เวลา 09:41
yosongkhla กล่าวว่า...: ไฟร์ฟ็อกซ์ 3 จดสถิติโลกสมใจ
โปรแกรมเว็บเบราเซอร์น้องใหม่ไฟร์ฟ็อกซ์ 3 (Firefox 3) ของมูลนิธิมอซิลลา (Mozilla) สามารถจดสถิติซอฟต์แวร์ที่มีผู้ดาวน์โหลดต่อวันมากที่สุดในโลกได้สำเร็จอย่างเป็นทางการ ด้วยสถิติ 8,002,530 ครั้งใน 24 ชั่วโมงแรกของการดาวน์โหลด

การจดสถิติโลกกับกินเนสเวิร์ลเรคคอร์ด (Guinness World Record) นั้นถูกประกาศชัยชนะในแง่พลังมหาศาลของโลกโอเพ่นซอร์ส หรือโลกซอฟต์แวร์มาตรฐานเปิดที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ใดๆ และเปิดกว้างให้นักพัฒนานำไปต่อยอดได้อย่างเสรี จุดนี้พอล คิม (Paul Kim) รองประธานฝ่ายการตลาดของมอซิลลา ออกแถลงการณ์ขอบคุณสาวกจิ้งจอกไฟทุกคน ระบุว่าทุกคนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ไฟร์ฟ็อกซ์ได้รับสถิติโลก

"สมาชิกชุมชนของเราร่วมมือกันไม่ใช่เพื่อผลักดันให้ไฟร์ฟ็อกซ์มีการใช้งานทั่วโลก แต่เพื่อสาธิตความเชื่อของทุกคนให้โลกรู้ว่า ไฟร์ฟ็อกซ์ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด"

ก่อนหน้านี้ มอซิลลาเปิดตัวแคมเปญนี้โดยกำหนดวันที่ 28 พฤษภาคมเป็นวันจดสถิติโลก แต่แล้วก็ถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 17 มิถุนายนซึ่งถูกเรียกว่าวันแห่งการดาวน์โหลดหรือ "Download Day" ในที่สุด วันดังกล่าวมอซิลลาได้จัดงาน Download Day ในรูปแบบแคมป์บาร์บีคิวที่สำนักงานใหญ่ใน Mountain View แคลิฟอร์เนียด้วย และมีแผนผลักดันให้กลุ่มสาวกไฟร์ฟ็อกซ์จัดงานปาร์ตี้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ลักษณะนี้ในพื้นที่อื่นๆต่อไป

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
นายภูริลาภ เรืองมณี รายงาน; 3 กรกฎาคม 2551 เวลา 09:50
daranee กล่าวว่า...: ไมโครซอฟท์เล็งขาย Office-OneCare แพคคู่ 70 เหรียญต่อปี
ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เดินหน้าทำตลาดซอฟต์แวร์เอกสารตระกูลออฟฟิศ (Office) กระตุ้นยอดสมาชิกด้วยการออกแพคเก็จใหม่ ซื้อออฟฟิศแถมโปรแกรมรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์นามวันแคร์ (Live OneCare) แพคเก็จนี้พร้อมขายจริงที่สหรัฐฯกลางเดือนนี้ เชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มความคุ้มค่าที่ถูกอกถูกใจชาวไซเบอร์ทั่วโลกออนไลน์เพราะขายเพียง 70 เหรียญ จากราคาปกติ 200 เหรียญ

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการเปิดเวทีให้ไมโครซอฟท์นำเสนอบริการบนอินเทอร์เน็ตแก่ผู้บริโภค เป็นทั้งการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับความต้องการของตลาดโดยใช้โมเดลราคาใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าโปรโมชันนี้จะทำให้วันแคร์แพร่หลายในกลุ่มผู้ใช้ซอฟต์แวร์ออฟฟิศมากขึ้น

รายงานจากเอพีระบุว่า ซอฟต์แวร์แพคคู่ Office-OneCare จะจำหน่ายที่ร้านเซอร์กิตซิตี้ (Circuit City) กว่า 700 สาขาในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ สนนราคาคือ 70 เหรียญต่อปีหรือประมาณ 2,300 บาท

ไบรสัน กอร์ดอน (Bryson Gordon) ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ออฟฟิศให้สัมภาษณ์ว่า ซอฟต์แวร์แพคคู่ไม่ได้จำหน่ายเฉพาะที่เซอร์กิตซิตี้เท่านั้น ซึ่งในอนาคต ผู้ค้าปลีกรายอื่นรวมถึงผู้ผลิตพีซีอย่างเดลล์ (Dell) ก็สามารถจำหน่ายซอฟต์แวร์แพคคู่นี้เช่นกัน

การขายซอฟต์แวร์ออฟฟิศพ่วงซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการค้าซอฟต์แวร์ โดยชุดซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์นี้จะทำตลาดในชื่อ Microsoft Equipt หรือชื่อรหัสเดิมว่า "Albany" ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ Word, Excel, PowerPoint, OneNote และ OneCare รวมถึงแอปพลิเคชันต่างๆที่ให้บริการที่เว็บไซต์ Windows Live แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย

โดยปกติแล้ว การซื้อซอฟต์แวร์เหล่านี้แบบแยกจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 200 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,600 บาท) และหากผู้ใช้ต้องการอัปเกรดซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันใหม่ อย่างที่มีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะออก "Office 14" ในปีหน้า (ปี 2009) ก็จะต้องเสียค่าซื้อซอฟต์แวร์ในราคาเต็ม

แต่ด้วยโมเดลราคาใหม่ ราคาอัปเกรดซอฟต์แวร์จะรวมอยู่ในค่าบริการ Microsoft Equipt รายปี 70 เหรียญอยู่แล้ว

กอร์ดอนระบุว่า กลุ่มเป้าหมายของ Equipt นั้นอยู่ที่ผู้ไม่ตกลงซื้อซอฟต์แวร์ออฟฟิศทันทีที่ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยอมใช้ออฟฟิศเวอร์ชันเก่าหรือไม่ก็ขอ copy จากเพื่อนเอา จุดนี้กอร์ดอนตั้งข้อสังเกตว่า ราคา 70 เหรียญเป็นราคาโปรแกรมรักษาความปลอดภัยระดับสูงถึงต่ำของผู้ผลิตอย่าง McAfee และ Symantec ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ยินยอมจ่ายเงินซื้ออยู่แล้ว แน่นอนว่าแพคเก็จใหม่อย่าง Equipt ย่อมเป็นที่สนใจ

เมื่อซอฟต์แวร์ออฟฟิศนั้นเป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของไมโครซอฟท์ ประกอบกับซอฟต์แวร์วันแคร์ก็เติบโตอย่างเชื่องช้าจนน่าเป็นห่วง ทั้งหมดนี้ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการเดินหมากที่ไมโครซอฟท์ได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ซื้อออฟฟิศได้ ขณะเดียวกันก็ได้ขยายกลุ่มผู้ใช้วันแคร์ไปด้วย

จุดนี้กอร์ดอนปฏิเสธว่า ไมโครซอฟท์ไม่ได้ต้องการเพิ่มจำนวนสมาชิกซอฟต์แวร์ออฟฟิศ แต่ไมโครซอฟท์หวังว่าสมาชิกประเภทเสียค่าบริการรายปีที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ไมโครซอฟท์สามารถก้าวเข้าสู่สังเวียนอินเทอร์เน็ตได้ จากเดิมที่มีตลาดอยู่ในโปรแกรมบนเดสก์ท็อปเท่านั้น

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตที่ไมโครซอฟท์จ้องจะไล่กวดคือกูเกิล (Google) สำหรับในประเทศไทย ยังไม่มีรายงานการจำหน่าย Equipt ในขณะนี้

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
รายงานโดย : นางสาวดารณี โต๊ะสวัสดิสุข; 3 กรกฎาคม 2551 เวลา 09:55
araya15 กล่าวว่า...: จีนประดิษฐ์จานบิน แอนนาโนวา 1 ก.ค. - บริษัทในจีนประดิษฐ์จานบินที่สามารถควบคุมจากระยะไกล สามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้ที่ระดับความสูง 3,200 ฟุต

การทดลองจานบินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ฟุตลำนี้ ประสบความสำเร็จบนท้องฟ้าเมืองฮาร์บินในมณฑลเฮย์หลงเจียง จานบินดังกล่าวได้รับการออกแบบให้ตรวจสภาพไฟป่าและการช่วยเหลือกู้ภัยบนตึกสูง โดยยานลำนี้สามารถบินอยู่ในอากาศได้นาน 40 นาที ด้วยความเร็ว 80.45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

บริษัท ฮาร์บิน สมาร์ท สเปเชียล แอร์โรคราฟ ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านปอนด์ (126 ล้านบาท) และเวลานาน 12 ปีในการพัฒนายานต้นแบบ ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายเช่นถ่ายภาพทางอากาศ สำรวจทางธรณีวิทยาและช่วยเหลือกู้ภัยฉุกเฉินขนาดย่อม คาดว่าจะสามารถนำออกจำหน่ายได้ในเดือนกันยายนนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคา

ยานบินดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยใบพัด สามารถควบคุมด้วยเครื่องบังคับจากระยะไกลหรือตั้งโปรแกรมการบินไว้ล่วงหน้า. - สำนักข่าวไทย

โดยนางสาวอารยา เลาหะพันธ์
Edtech 15
รหัส 51063709; 6 กรกฎาคม 2551 เวลา 06:31
RedAngel กล่าวว่า...: Why does organic milk last so much longer than regular milk?

If you’ve ever shopped for milk, you’ve no doubt noticed what our questioner has: While regular milk expires within about a week or sooner, organic milk lasts much longer—as long as a month.

So what is it about organic milk that makes it stay fresh so long?

Actually, it turns out that it has nothing to do with the milk being organic. All "organic" means is that the farm the milk comes from does not use antibiotics to fight infections in cows or hormones to stimulate more milk production.

Organic milk lasts longer because producers use a different process to preserve it. According to the Northeast Organic Dairy Producers Alliance, the milk needs to stay fresh longer because organic products often have to travel farther to reach store shelves since it is not produced throughout the country.

The process that gives the milk a longer shelf life is called ultrahigh temperature (UHT) processing or treatment, in which milk is heated to 280 degrees Fahrenheit (138 degrees Celsius) for two to four seconds, killing any bacteria in it.

Compare that to pasteurization, the standard preservation process. There are two types of pasteurization: "low temperature, long time," in which milk is heated to 145 degrees F (63 degrees C) for at least 30 minutes*, or the more common "high temperature, short time," in which milk is heated to roughly 160 degrees F (71 degrees C) for at least 15 seconds.

The different temperatures hint at why UHT-treated milk lasts longer: Pasteurization doesn’t kill all bacteria in the milk, just enough so that you don't get a disease with your milk mustache. UHT, on the other hand, kills everything.

Retailers typically give pasteurized milk an expiration date of four to six days. Ahead of that, however, was up to six days of processing and shipping, so total shelf life after pasteurization is probably up to two weeks. Milk that undergoes UHT doesn’t need to be refrigerated and can sit on the shelf for up to six months.

Regular milk can undergo UHT, too. The process is used for the room-temperature Parmalat milk found outside the refrigerator case and for most milk sold in Europe.

So why isn’t all milk produced using UHT?

One reason is that UHT-treated milk tastes different. UHT sweetens the flavor of milk by burning some of its sugars (caramelization). A lot of Americans find this offensive—just as they are leery of buying nonrefrigerated milk. Europeans, however, don’t seem to mind.

UHT also destroys some of the milk’s vitamin content—not a significant amount—and affects some proteins, making it unusable for cheese.There are, of course, lots of reasons people buy organic milk. But if it's the long shelf life you're after, I would recommend you buy nonorganic UHT milk and avoid being charged double.

ทำไมนมออแกนิกจึงมีอายุยาวกว่านมปกติ

ตะวันตกนิยมดื่มนมออร์แกนิกมากขึ้น แต่ทำไมนมนี้ถึงมีอายุยาวนานกว่านมอื่นๆ ล่ะ ตั้งไว้ในตู้เย็นตั้งนานยังไม่เสียเลย?

จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตนมออร์แกนิกนอร์ทอีสต์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า นมออร์แกนิกไม่ได้ช่วยให้นมเสียช้า แต่เป็นขั้นตอนการผลิตต่างหากที่ช่วย

"นมออร์แกนิก" คือนมที่ผลิตจากฟาร์มที่ไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะในการป้องกันโรคในวัว ทั้งยังไม่ใช้ฮอร์โมนเพิ่มผลผลิตนม เนื่องจากฟาร์มประเภทนี้ยังมีจำนวนน้อย ไม่ได้อยู่กระจัดกระจายทั่วประเทศ ดังนั้น นมจึงต้องใช้เวลาเดินทางนานเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึงกระบวนการผลิตจึงต้องแตกต่างจากนมอื่นๆ โดยใช้วีธีผ่านความร้อนด้วยอุณหภูมิแบบอัลตราไฮ หรือ "ยูเอชที" ซึ่งนมจะผ่านความร้อนอุณหภูมิ 138 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-4 วินาที ทำให้ฆ่าแบคทีเรียในนมจนหมด

ชาวอเมริกันนิยมดื่มนมพาสเจอไรซ์ ซึ่งนมพาสเจอไรซ์นี้ทำได้ 2 แบบ คือ "อุณหภูมิต่ำ เวลานาน" คือผ่านความร้อน 63 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอย่างน้อย 30 วินาที และ "อุณหภูมิสูง เวลาสั้น" คือผ่านความร้อน 71 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอย่างน้อย 15 วินาที โดยวิธีพาสเจอไรซ์ไม่ได้ฆ่าแบคทีเรียออกจากนมไปทั้งหมด เพียงแต่พอที่เราจะไม่ป่วยด้วยแบคทีเรีย ขณะที่ยูเอชทีนั้นฆ่าทุกอย่าง

สำหรับอายุของนมพาสเจอไรซ์นั้นเมื่อวางขายอยู่ตามซูเปอร์มาร์เก็ตจะอยู่ระหว่าง 4-6 วัน แต่เมื่อรวมขั้นตอนการผลิตและการขนส่งด้วยแล้ว นมพาสเจอไรซ์อยู่ได้ 2 อาทิตย์ ส่วนนมยูเอชทีวางขายได้นานถึง 6 เดือน

ส่วนสาเหตุที่นมไม่ผลิตแบบยูเอชทีไปทั้งหมด ทั้งๆ ที่ไม่ต้องมากังวลเรื่องนมบูด ก็เพราะรสชาติของนมพาสเจอไรซ์และนมยูเอชทีแตกต่างกัน โดยนมยูเอชทีจะหวานกว่าเพราะมีการเผาไหม้น้ำตาลมากกว่า หรือเรียกว่าคาราเมล ทั้งยังทำลายวิตามินไปด้วยแม้ว่าจะเป็นจำนวนไม่มาก ผู้คนทุกมุมโลกมีนิสัยการบริโภคแตกต่างกัน แม้ชาวอเมริกันจะไม่ชอบนมยูเอชที แต่ชาวยุโรปและเอเชียแล้ว นมยูเอชทีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ณศิริ เตชะเสน รายงาน
แหล่งที่มาhttp://www.sciam.com/article.cfm?id=experts-organic-milk-lasts-longer; 6 กรกฎาคม 2551 เวลา 07:05
pavarisa กล่าวว่า...: WD เปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ดูอัลใหม่

นายจิม เวลช์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ฮาร์ดไดรฟ์แบบติดตั้งภายนอกและกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทเวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป หรือ WD หนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก เปิดตัว My Book® Mirror Edition™ ฮาร์ดไดรฟ์แบบดูอัลไดรฟ์รุ่นใหม่ที่ติดตั้งภายนอกแบบแยกเป็นอิสระ สามารถจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวอันมีค่าของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติถึงสองครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของข้อมูลสำคัญ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์การทำมิเรอร์ หรือการป้องกันข้อมูลอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยี RAID ที่ทำให้ระบบจัดเก็บข้อมูลของ WD My Book® Mirror Edition™ เป็นระบบที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้

“ขณะนี้การจัดเก็บข้อมูลดิจิตอลส่วนบุคคลต่างๆ เช่น ภาพถ่าย เพลง และภาพวิดีโอบนเครื่องเดสก์ท็อปและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ขณะที่ผู้บริโภคเองก็เพิ่มความตระหนักว่า การหาวิธีป้องกันไว้ก่อนเพื่อปกป้องข้อมูลของตนเป็นเรื่องที่สำคัญ และต่างก็มองหาโซลูชันแบบง่ายๆ สำหรับจัดเก็บข้อมูล”รองปธ.และผจก.ทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ฯบริษัท WD กล่าว

นายจิม กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ใช้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของตนลงบน My Book® Mirror Edition™ ข้อมูลอันมีค่าของผู้ใช้ก็จะถูกทำมิเรอร์โดยอัตโนมัติเพื่อการป้องกันเป็นพิเศษ จึงช่วยเพิ่มความสะดวกและประหยัดจากการจัดเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน ที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไปในห้องศูนย์ข้อมูลของบริษัท เทคโนโลยีการทำมิเรอร์ (mirroring) หรือการสำเนาข้อมูลนี้ทำให้ระบบดูอัลไดรฟ์ใหม่ของ WD กลายเป็นโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลซึ่งเป็นที่ปรารถนาในหมู่ช่างภาพ โฮมยูสเซอร์ และสำนักงานขนาดเล็ก และผู้ใดก็ตามที่ต้องการการรับประกันเป็นพิเศษว่าข้อมูลของพวกเขาจะปลอดภัย

รองปธ.และผจก.ทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ฯบริษัท WD กล่าวด้วยว่า ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางธุรกิจถือเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง ทั้งในด้านจิตใจและด้านการเงิน ระบบใหม่ในการทำมิเรอร์ของฮาร์ดไดรฟ์ในตระกูล My Book จะช่วยให้ผู้ใช้อุ่นใจได้ เนื่องจากระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่นี้จะได้รับการจัดรูปแบบให้ใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows® ประกอบด้วยคุณลักษณะ พอร์ต USB 2.0 โหมด RAID 1 ฮาร์ดไดรฟ์ My Book Mirror Edition และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยอาศัยเทคโนโลยีไดรฟ์ GreenPower™ RAID 1 (Mirrored)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า WD ต้องการคืนกำไรให้ผู้บริโภค ด้วยการ ซื้อฮาร์ดดิสก์ จาก WD ทั้งขนาด 2.5 นิ้ว และขนาด 3.5 นิ้ว จากตัวแทนจำหน่ายลุ้นรับของรางวัลฟรีทุกวัน รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2551 – 22 สิงหาคม 2551 โดยการนำหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ ที่ปรากฏบนตัวฮาร์ดดิสก์เวสเทิร์นดิจิตอลไปลงทะเบียนยังเว็บไซต์ www.wdluckygame.com ก็มีสิทธิลุ้นรับรางวัลมากมาย อาทิ แพคเกจทัวร์กรุงเทพ-ฮ่องกง 3 วัน 2 คืน, เครื่องเล่นเกม PlayStation3 และเครื่องเล่นเกม Xbox360 ตลอดจนของรางวัลอื่นๆอีกมากมาย ติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ www.wdluckygame.com

ข่าวจาก : ไทยรัฐ
รายงาน: ปวริศา ธีระนังสุ
รหัสประจำตัว : 51063705; 7 กรกฎาคม 2551 เวลา 02:55